เราเป็นผู้นำด้านการให้บริการและจำหน่ายอุปกรณ์ระบบสัญญาณแจ้งเตือนอัคคีภัยครบวงจร พร้อมให้คำปรึกษา ออกแบบระบบดับเพลิง ติดตั้งและซ่อมแซมงานดับเพลิง โดยวิศวกรผู้เชี่ยญชาญที่ได้รับใบอนุญาต เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และให้ลูกค้าเกิดความวางใจในผลิตภัณฑ์
ระบบดับเพลิงที่สามารถทำงานได้ทันที โดยอัตโนมัติเมื่อเกิดเพลิงไหม้หรือความร้อนจากเพลิงไหม้ หากเกิดไฟไหม้แล้วไม่มีคนอยู่ จะไม่สามารถมีใครป้องกันได้ทัน ระบบดับเพลิงอัตโนมัติแบบใช้สารเคมี หรือ Innert Gas
เป็นศูนย์กลางของระบบ ทำหน้าที่ตรวจสอบสถานะของอุปกรณ์แจ้งเหตุทั้งหมดที่ติดตั้งไว้ในแต่ละพื้นที่ เมื่อได้รับสัญญาณแจ้งเหตุจากอุปกรณ์ใดจะทำการประมวลผล ส่งเสียงเตือนและแสดงจุดเกิดเหตุออกทางหน้าจอและแผงแสดงจุดเกิดเหตุตามผังอาคาร ส่งสัญญาณเตือนภัยออกทางอุปกรณ์ส่งสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ไปยังเฉพาะพื้นที่ที่เกี่ยวข้องหรือทั้งหมด และสั่งงานอุปกรณ์เชื่อมต่อกับระบบอื่นๆทั้งหมดตามขั้นตอนที่ได้โปรแกรมไว้
เป็นอุปกรณ์ตรวจจับและแจ้งเหตุเพลิงไหม้ไปยังตู้ควบคุม แบ่งตามการทำงานออกเป็น 2 ชนิดคือ
1.อุปกรณ์แจ้งเหตุโดยตัวบุคคล (Manual Station) แจ้งเหตุโดยใช้มือดึง หรือกด หรือทุบกระจก โดยบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ อุปกรณ์นี้จะติดตั้งให้คนเห็นได้ง่ายตามเส้นทางหนีภัย เช่นใกล้ประตูทางออก บันได
2.อุปกรณ์แจ้งเหตุอัตโนมัติ (Detectors) ทำหน้าที่ตรวจจับสิ่งที่เป็นผลจากการเกิดเพลิงไหม้ เช่นก๊าซ CO² ควัน ความร้อน และเปลวเพลิง เป็นต้น และแจ้งเหตุไปยังตู้ควบคุมโดยอัตโนมัติ ซึ่งวิธีการตรวจจับแต่ละแบบจะให้ผลแตกต่างกันไป ให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่
ทำหน้าที่ตรวจจับความร้อนจากการเกิดเพลิงไหม้ ซึ่งสามารถตรวจจับเพลิงไหม้ได้เมื่อเหตุลุกลามจนเริ่มมีเปลวไฟและเกิดความร้อนจนถึงอุณหภูมิวิกฤติ อุปกรณ์ตรวจจับชนิดนี้จะแบ่งวิธีตรวจจับเป็น 2 แบบ
-ชนิดตรวจจับอัตราการเพิ่มของอุณหภูมิ (Rate of Rise) ใช้ตรวจจับการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ ซึ่งจะทำงานอุณหภูมิเพิ่มขึ้นด้วยอัตราความเร็วสูงจนถึงค่าพิกัด 15◦F ต่อนาที
-ชนิดตรวจจับอุณหภูมิคงที่ (Fixed Temp) ใช้ตรวจจับอุณหภูมิที่สูงถึงค่าวิกฤติ
-ชนิดคอมบิเนชั่น (Combination) ภายในอุปกรณ์ตรวจจับความร้อนชนิดนี้จะมีการตรวจจับทั้งสองแบบข้างต้นอยู่ในตัวเดียวกัน
สามารถตรวจจับเพลิงไหม้ได้เมื่อมีการสันดาปหรือประกายไฟเกิดขึ้น เหมาะกับสถานที่ๆเกิดเปลวเพลิงขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อมีการลุกไหม้ ใช้ติดตั้งได้ทั้งพื้นที่ภายในอาคาร และพื้นที่มีการกองวัสดุภายนอกอาคาร วิธีการตรวจจับของอุปกรณ์ชนิดนี้จะมีสองแบบ
อุปกรณ์ตรวจจับรังสีอินฟราเรด (Infra-Red, IR) จากเปลวเพลิง โดยตรวจจับประกายวูบวาบของการแผ่รังสีอินฟราเรดเป็นช่วงๆ
อุปกรณ์ตรวจจับเปลวเพลิงแบบรังสีเหนือม่วง (Ultra-Violet, UV) จะทำงานตรวจจับการแผ่รังสีที่มีความยาวคลื่นระหว่าง 220 นาโนเมตร ถึง 270 นาโนเมตร ซึ่งอยู่นอกแถบคลื่นแสง สำหรับการตรวจจับเพลิงไหม้จากเชื้อเพลิงที่เป็นของแข็ง หรือสารทำละลายที่มีธาตุโลหะเป็นองค์ประกอบที่เข้มข้น